25/11/2020

iPhone เครื่องช้า เกิดจากอะไร และแก้ไขอย่างไร​

สำหรับอาการเครื่องช้าของ iPhone นั้นผู้ใช้ที่ใช้งานเครื่องไปสักระยะก็จะรู้สึกว่าเครื่องมันช้าลง ใช้งานไม่ดีเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ ซึ่งผู้ใช้งานหลายคงคิดว่าเครื่องมันเก่าแล้ว ใกล้พังแล้ว แต่รู้หรือไม่อาการเครื่องช้านั้นสาเหตุหลักไม่ใช่เพราะเครื่องเก่าเครื่องกำลังจะเสีย แต่ปัญหาบางครั้งมันก็ขึ้นอยู่กับซอฟแวร์ด้วย เราไปดูกันว่าสาเหตุส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะอะไร

เราขอยกมา 3 สาเหตุ ที่ทำให้ iPhone ของคุณช้าลง และวิธีที่แก้ง่ายๆ
1. พื้นที่จัดเก็บข้อมูลใกล้เต็ม
สาเหตุนี้ทำให้การทำงานของเครื่องไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเนื่องจากมีพื้นที่ให้ระบบทำงานได้น้อย ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ ก็เช่น หากมีอะไรไปตันท่อระบายทำก็จะทำให้การระบายน้ำนั้นช้าลงหรือไม่สามารถระบายได้เลย iPhone ของคุณก็เช่นกัน ยิ่งพื้นที่การทำงานน้อยเท่าไหร่ก็จะทำให้การทำงานช้าลง หรือไม่สามารถทำงานได้เลย นั่นก็จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไอโฟนของคุณเมื่อเปิดเครื่องมาก็จะค้างโลโก้ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ โดยวิธีแก้ก็คือทำการลงข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้เหลือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้มากที่สุด หรือวิธีที่ง่ายและชัวที่สุดคือการนำเครื่องไป Restore ใหม่ แต่คุณต้องทำการ Backup สำรองข้อมูลที่คุณไว้ก่อนเพื่อไม่ให้ข้อมูลที่สำคัญที่คุณหาย โดย Backup ไว้ที่ iCloud หรือไว้ที่ช่องทางอื่น ขณะเดียวกันหากคุณไม่ได้ทำการอัพเดต iOS ในการ Restore นั้นก็จะเป็นการอัพเดต iOS ของคุณเป็นเวอร์ชั่นใหม่ให้คุณทันที

2. iOS ที่ไม่ได้รับการอัพเดต
การที่ iOS ของคุณเป็นเวอร์ชั่นเก่า ก็เป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เครื่องของคุณช้า เพราะในการอัพเดตของ iOS แต่ละครั้งก็จะการปรับปรุงแก้ไขในส่วนของการทำงานของเครื่องด้วยนั่นจึงจำเป็นมากๆ ที่ต้องทำการอัพเดต iOS อยู่เสมอเพื่อให้ได้รับการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา  ข้อดีของการอัพเดต iOS ก็คือ คุณจะสามารถอัพเดตเวอร์ชั่นของแอพพลิเคชั่นได้ ไม่ใช่แค่ iOS ที่ต้องอัพเดตแต่การอัพเดตแอพพลิเคชั่นก็สำคัญก็จำเป็น เพราะจะทำให้คุณสามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆของแอพนั่นได้ เช่น Facebook Youtube Line โดยในการอัพเดตแอพพลิเคชั่นก็จะถูกกำหนดเวอร์ชั่นของ OS ด้วยว่าหากจะอัพเดตได้ต้องมีเวอร์ชั่นของ iOS ขั้นต่ำเท่าไหร่ นั่นการอัพเดต iOS จึงจำเป็นมากๆ แต่การอัพเดตเป็นเวอร์ชั่นใหม่นั่นไม่มีข้อเสีย ซึ่งการปล่อยให้อัพเดตของ Apple นั้นในแต่ละครั้งก็จะมีปัญหาหรือบัคที่เราต้องแต่ ส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่มีการเปลี่ยนเวอร์ชั่นใหม่ เช่น อัพเดตจาก iOS13 เป็น iOS14 อาจจะทำให้เราเจอปัญหาบ้างโดยเฉพาะกับแอพธนาคารต่างๆ ที่จะมีปัญหา หากยังไม่จำเป็นต้องอัพเดตให้เรารอก่อนก็ได้จำกว่าจะสมบูรณ์ดี โดยดูจากผู้ใช้ที่ได้ทำการอัพเดตแล้ว

3. แบตเตอรี่เสื่อม บวม       แบตเตอรี่เสื่อมไม่ใช่แค่จะทำให้เวลาก็ใช้งานในการชาร์จหนึ่งครั้งนั้นน้อยลงแต่จะส่งผลถึงการทำงานที่ช้าลงด้วย โดยเราสามารถตรวจคุณภาพของแบตเตอรี่ของคุณได้ด้วยตนเอง โดยให้ทำการเข้าไปที่ Setting > Battery > Battery Health โดยสังเกตที่เปอร์เซนต์ โดยแบตเตอรี่ใหม่จะอยู่ที่ 100 เปอร์เซนต์ โดยเราแนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อสุขภาพของแบตเตอรี่อยู่ที่ 80-85 เปอร์เซนต์

สรุป คือ หากเครื่องของคุณยังสามารถอัพเดต iOS ได้ และเครื่องไม่ได้เก่าจนเกินไปวิธีที่นำเสนอไปนั้นก็อาจจะทำให้เครื่องของคุณทำงานได้เร็วขึ้นได้